ก้าวย่างของวัยกลางคน

มันช่างเจ็บใจเหลือเกิน เมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังจะก้าวเข้าสู่ “วัยกลางคน” อย่างสมบูรณ์แล้ว แต่ยังรู้สึกว่า มันยังมีอะไรต้องทำ ต้องเจอ ต้องไปค้นหาอีกมากมาย แต่ทำไมเวลามันช่างรวดเร็วเยี่ยงนี้ เมืองไทยก็ยังไปไม่ครบ 77 จังหวัด เมืองนอกก็ยังไม่เคยไปเปิดหูเปิดตาเลย ได้แต่ไปกับทัวร์ ไปเดินเหยียบดินแก๊กๆ ก็กลับ คือมันไม่ได้อรรถรสในการท่องเที่ยวตามแบบฉบับของตัวเองเลยอะ ถ้าลางานได้ซัก 6 เดือนจะเก็บผ้าใส่กระเป๋าแล้วออกไปท่องโลกมันซะเดี๋ยวนี้เลย เหอะๆ

พอเข้าใกล้วัยกลางคนอะไรๆ ที่มันเคยง่ายๆ มันก็กลับดูยากเย็น ดูมีปัญหา ดูมีภาระ ดูวุ่นวายไปหมด ไม่เหมือนเด็กๆ ไม่เหมือนวัยรุ่น ที่ทำก่อน คิดทีหลัง เอาสิ่งที่ต้องการก่อน ความรับผิดชอบค่อยมาว่ากันทีหลัง ว่าอะไรยังไง แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้วน่ะซิ เฮ้อ…..

ตอนนี้นั่งปวดขา เส้นตึงอยู่หน้าคอมในวันสงกรานต์ ที่ใครๆ เขาออกไปสาดน้ำ ตากแดดตากฝนกัน ได้พบปะพูดคุยกับเพื่อนสนิทมิตรสหาย ได้เจอญาติโกโหติกา ได้เจอหนุ่มสาวและคนแปลกหน้ามากมาย แต่เรากลายเป็นไอ้เป๋ที่นั่งๆ นอนๆ อยู่ในห้องเพ้อเจ้อไรไปวันๆ

ขาที่เคยไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ มันจะมีเสียงกร๊อบแกร๊บๆ เวลาที่บิด หรือ เดิน วันนี้มันสำแดงฤทธิ์ธาให้เราสาสมใจแล้ว เคยเจ็บแต่ 2-3 วันก็หาย พอเดินได้ แค่เท้าแพลง หรือเคล็ดนิดหน่อย พอตึงๆ วันนี้ต้องใช้ไม้ค้ำยัน เพื่อเดิน เพราะมันบวมมากกกกกก มันผิดปกติกว่าสมัยวัยรุ่นที่เป็นนะเนี่ย เหอะๆ ตอนนั้นส่วนมากที่เป็นจะเกิดจากการเล่นกีฬาซะส่วนมาก เช่นไปเตะบอล ไปเล่นโลดโผน หกล้ม ฯลฯ บ้างก็ขึ้นลงบันไดที่บ้านแล้วมันก็ปวดตอนกลางคืนถึงเช้า แต่ไม่กี่วันก็หาย

ส่วนสาเหตุของการเป็นครั้งนี้ ฟังดูมันจะเวอร์เกินไป แค่บริหารข้อเท้า บิดไปบิดมา พอตกดึก ถึงกับปวดจนนอนไม่ได้เลย มันปวดระบม จนต้องลุกมาหายาทาตอนดึกๆ ตอนเช้าก็ยังขับรถไปทำงานไหว แต่พอสายๆหน่อยมันก็เริ่มปวด เพราะเราฝืนเดิน เพราะคิดว่าไม่เป็นไร เป็นแบบนี้บ่อยแล้ว เดี๋ยวก็หาย

แต่ครั้งนี้แม่งปวดจริง เส้นมันตึงๆ บอกไม่ถูก น่าจะเป็นที่เส้นเอ็นอักเสบ นั่งห้อยขาได้ แต่ถ้านอนละก็ ปวดไปยันน่องเลย เพราะมันตึง ทุกวันนี้ยังสรรหาท่านอนที่ไม่ทำให้ปวดไม่ได้เลย ต้องนอนดูหนังไปจนหลับนั่นแหละ เพราะมันตึงปวดเอ็นอย่างบอกไม่ถูก

นอนไปก็ต้องซู๊ดดด ซี๊ดดดปากไปด้วย เพราะมันเจ็บเสียวอย่างบอกไม่ถูก ตอนนี้ก็กินยา ทายา รัดข้อเท้า ไม่ลงน้ำหนัก นอนยกขาสูง (แต่มันสูงแล้วปวด เลยไม่อยากนอน) แล้วก็แช่น้ำอุ่น สลับเย็น ให้มันลดอาการบวมก่อน ส่วนเส้นเอ็นที่อักเสบให้ร่างกายมันจัดการไป หน้าที่เราดูแลได้แต่ภายนอก

จนแล้วจนรอด ก็ผ่านไปเดือนกว่าๆ ถึงจะหาย แต่ไม่สนิท ขาก็ยังปากอยู่ เวลาออกกำลังกายหรือ ยืดกล้ามเนื้อในทางยาก หรือ ไม่ยากก็ตาม มันจะมีอาการแปร๊บๆ จี๊ดๆ ที่ข้อเท้า ให้เราได้รู้สึกว่า “เขาอยู่แถวนี้นะ เจนสัมผัสได้”

ตลอดระยะเวลาที่ต้องทนกับการเดินที่ไม่คุ้นเคย ใส่ร้องเท้าแปลกๆ ทำให้รู้สึกเหมือนตัวเองเป็น IRONMAN ยังไงยังงั้นเลย เหอะๆ (นี่ว่าจะเอาไฟมาติดหน้าอกอยู่แล้วเชียว) รองเท้ารัดข้ออันนี้มันดีนะ หัวหน้าเขาให้ยืมมาใช้ มันจะเป็นเหมือนเฝือกแข็งๆ ประกบเท้าเราเอาไว้ ส่วนด้านใน มันจะมีถุงลม เอาไว้รองรับแรงกดทับ ไม่ให้ขาเรากระดุกกระดิก ถุงลงนี้อยากแน่นก็ ปั้มลมเข้าไปมาๆ ถ้าผ่อนออกก็เอาที่เสียบกลับด้าน มันจะดึงลมออก ไฮเทคม๊ากๆ ใส่ขับรถ ใส่เดินสวนจตุจักรได้สบายเลย

แต่ทางที่ดี อย่าเป็นอีกเลยดีกว่า มันใช้ชีวิตลำบ๊ากกลำบาก