เด็กขาดความอดทน

เดี๋ยวนี้เรามักจะได้ยินครูบาอาจารย์ และผู้ใหญ่หลายต่อหลายท่านบ่นกันบ่อยๆ เกี่ยวกับเรื่องเด็กสมัยนี้ “ขาดความอดทน” ไม่สู้งาน ไม่เอาถ่าน ขาดสมาธิ ติดเกมส์ ติดเน็ต ติดบลาๆๆๆ สารพัดสารเพ มากมายหลายปัญหา สารพัดจะบ่นกัน มาด้วยเรื่องของวันนี้เลยดีกว่า ว่าเราเคยสงสัยกันหรือไม่ ว่าทำไมเด็กหรือ เยาวชนสมัยนี้ถึงขาดความอดทน ไม่ทำไรจริงจัง เบื่อง่าย อะไรทำนองนี้

จากประสบการณ์ที่ผ่านพบมา รู้สึกได้ว่ามันมีเหตุมาจาก “ของเล่นวัยเด็ก” ถ้ายังนึกไม่ออกว่าทำไม ทำไมถึงมีเหตุมาจากของเล่นวัยเด็กด้วยละ? เนื่องด้วยเมื่อสมัยก่อนนั้น การที่เด็กๆจะมีของเล่นได้ซักชิ้นนึง มันแสนจะลำบาก และต้องอดทนรอ ลำบากยังไง? ยกตัวอย่างของเล่นในวัยเด็กที่คนอายุมากๆ เคยเล่นกัน อาทิเช่น “ม้าก้านกล้วย” กว่าเราจะได้ม้ามาขี่ซักตัวหนึ่งเราต้องทำอะไรบ้าง เริ่มจาก ไปหาต้นกล้วย หามีด หาเคียว ไปตัดก้านกล้วย จากนั้นเอามากรีบใบกล้วยออก เลือกส่วนปลายไว้เล็กน้อย เพื่อทำเป็นหาง จากนั้นก็เฉือน ข้างๆก้านกล้วยสองข้าง เพื่อทำเป็นหูม้า และพับลงมาใช้ไม้แหลมเสียบ ก็จะได้ม้ามาแล้ว 1 ตัว แต่ยังไม่เสร็จ เราต้องมีเชือก เชื่อก็ใช้เชือกปอ หรือเชือกกล้วยนั่นแหละ นำมาพันๆๆ และรัดไม่ให้ม้าหลุดไปจากตัวเราเวลาที่เราวิ่ง กว่าจะได้ม้าของเล่นซักตัวนึง มันมีขั้นตอนเยอะแยะ แถมเสื้อผ้าก็จะต้องเปื่อนยางกล้วยอีกด้วย ถ้ามีเสื้อตัวสวยๆ มันก็จะเสียเป็นรอยด่างๆ ไปเลย แต่เราเป็นเด็กๆ เราก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร เพราะมันเหมือนเป็นสัญลักษณ์ของการ “ผจญภัย” การที่เสื้อผ้าขาด เป็นรอยบ้าง มันเหมือนเราเอาไปคุยได้ว่า เฮ้ยยย รู้ว่ากูผ่านอะไรมาบ้างง เจ๋งป่าวววว!!

พอกลับบ้านไปแบบเสื้อผ้ามอมๆ ก็อาจจะโดนบทสวดชุดใหญ่ แถมด้วยไม้เรียวอีกอัน ตอนโดนไล่ไปอาบน้ำ (แต่ก็ไม่เข็ด)

ไม่ใช่เฉพาะแค่สิ่งที่เป็นของเล่นเท่านั้น การเล่นสนุกสนานในวัยเด็กเมื่อก่อนกับสมัยนี้ก็ต่างกันมาก สมัยก่อนเรายังไม่มีเทคโนโลยีทันสมัยขนาดนี้ สิ่งที่เด็กๆ เล่นกันก็จะมี ดีดลูกแก้ว, เป่ากบ, โดดยาง, เล่นน้ำ, เล่นโคลน, ซ่อนแอบ, แข่งจักรยาน, เล่นพนันด้วยไพ่การ์ตูนต่างๆ ซึ่งส่วนมากมันมีการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มเพื่อน ในการละเล่นบางอย่าง เราไม่สามารถเล่นคนเดียวได้ เราไม่มี COMP ที่จะมาเล่นเพื่อวัดทักษะของตัวเอง เรามีแต่ “เพื่อน” ที่ต้องปั่นจักรยานไปตามมันที่บ้าน ไปเฝ้ามันกินข้าวอาบน้ำ เพื่อจะได้ออกไปเล่นกัน สิ่งนี้มันทำให้เด็กๆสมัยก่อน รู้จักพึ่งพาอาศัยกัน รู้จักเรื่องใจเขาใจเรา และต้องอดทนรอ ถ้าเพื่อนยังไม่มา

แล้วสมัยนี้ละเล่นอะไรกัน อยากเล่นอะไรก็ซื้อเอา อยากได้นั้นได้นี่ก็ซื้อเอง ขอเงินพ่อแม่แป๊บเดียวก็ได้ของเล่น ไม่ต้องรอนาน ไม่ต้องให้ใครทำให้ ไม่มีเพื่อนก็เล่นกับ COMP ไม่มีเพื่อนก็เล่นเกมส์คนเดียวได้ ไม่มีเพื่อนก็เข้าโลกออนไลน์ ซึ่งเสมือนหนึ่งว่าเราไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวบนโลก เรามีคนคุยด้วยเยอะแยะมากมาย แต่มันใช่วิถีที่ใช่แล้วหรือ กับการที่เราสร้างโลกเสมือนจริงขึ้นมา เพื่อหลอกตัวเองไปว่าเรามีเพื่อน มีคนสนิท ทั้งที่เราเองไม่เคยไปรอมันกินข้าว ไปรอมันอาบน้ำ ไปรับมันหน้าบ้าน ไปนอนบ้านมัน ไปกินข้าวฝีมือแม่เพื่อน ถ้าเราไม่มีสิ่งเหล่านี้ ?มันจะต่างอะไรกับการอยู่คนเดียว เด็กสมัยนี้หลอกตัวเองว่ามีเพื่อนด้วยการใช้เทคโนโลยีมาเพื่อกลบเกลือนความเหงา และต้องการการยอมรับจากเพื่อน ที่มีเทคโนโลยีเหมือนกัน ไม่ว่าจะ smart phone, tablet ไปจนตุ๊กตาเฟอร์บี้ ที่เดี๋ยวนี้ถึงกับเห็นคนพามันไปเดินห้างกันแล้ว

ทำไมถึงบอกว่าเด็กสมัยนี้ขาดความอดทน เพราะ เพื่อนจริง ถ้าเราไม่ทน เราก็หนีมันไม่ได้ แต่ถ้าเพื่อนที่เราสร้างมาจากโลกของเราเอง ถ้าไม่ชอบก็บล็อค ถ้าเกลียดก็ประจาน ถ้าคุยก็ WhatApp, Line ถ้าไปไหนก็ Intragram , จนบางทีไปไหนต่อไหนก็ต้องบอกคนโน้นคนนี้ เพียงเพื่ออยากให้ “เพื่อน” ได้รู้ และเพียงเพราะ “เพื่อน” ไม่ได้มากับเราด้วย ชีวิตตอนนี้มันเลยสับสนกันระหว่าง “ความเป็นส่วนตัว กับ ความลับส่วนรวม”

ถ้าอยากให้ลูกหลานเรามีความอดทน หมั่นพาไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง กิจกรรมที่ทำกับคนอื่น มันสามารถช่วยได้ในระดับหนึ่งที่นอกเหนือจากการอบรมสั่งสอน เด็กจะมีความอดทนหรือไม่ มันขึ้นอยู่กับการบ่มเพาะจิตสำนึกนั่นเอง

ขอบคุณภาพจาก: phrawichianmolee.com