จบการอบรมต้นกล้าอาชีพ

ต้นกล้าฯ มัคคุเทศก์ รุ่นที่ 1
ต้นกล้าฯ มัคคุเทศก์ รุ่นที่ 1

เสร็จสิ้นไปแล้วกับการอบรมมัคคุเทศก์ ในโครงการต้นกล้าอาชีพ รุ่นที่ 1 ณ วิทยาลัยอาชีวศึกษาพระนครศรีอยุธยา เวลา 20 วัน ที่พัดพาคนทั้ง 13 คนมาพบเจอกัน มันช่างบังเอิญเหลือเกิน มีคนที่อายุ 18 ไปจนถึง 40กว่า แต่ทุกอย่างก็ดูลงตัว ไปหมด สีสรรค์จะอยู่ที่วัยรุ่น ในการสร้างเสียงหัวเราะ และความสนุกสนาน อาทิ เชอรี่ สาวร่างยักษ์ ที่หุ่นเธอพริ้วไหว ไปตามจังหวะเพลงได้อย่างไม่น่าเชื่อ และคนที่มาที่หลังสุดคือพี่อ้อ ที่เข้ามาวันแรก นิ่งมากๆ จนทำให้ผมคิดไปว่า พรุ่งนี้พี่เขาจะมาอีกมั้ยน้อ? แต่พี่เขาก็มา และเข้ากันกับพวกเราได้ อย่างกลมกลืน ยังนั่งถามตัวเองอยู่ทุกวัน ว่าอะไรทำให้พวกเรา เข้ากันได้ไวขนาดนี้ เพราะอะไร? ผมเองก็ยังหาคำตอบตรงนี้ไม่ได้ ความรู้สึกของผมเองตอนที่อบรมอยู่นี้ มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนกลับไปเรียนอีกครั้งหนึ่ง จากที่ผมเคยทำงานตอนกลางคืน นอนกลางวัน ผมก็ต้องกลับหัวชีวิต? มาอบรมกลางวันและนอนกลางคืนแทนบ้าง ผมต้องตื่นเช้าไปเรียน เหมือนสมัยที่เรียนอยู่ มันช่างเป็นชีวิตที่สุดแสนสบาย จริงๆนะ มันรู้สึกมีความสุข ที่ได้ไปเจอเพื่อนๆ ได้ไปเรียน ได้ไปหาสิ่งใหม่ๆ ในชีวิต ดีกว่าอยู่บ้าน ที่เจอแต่อะไรเดิม ๆ คนเดิม ๆ นิสัยเดิม ๆ ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียด และก็จบปลักโคลนปลักควายกับ หย่อมเดิม ๆ จบเสียที หลุดพ้นไปจากที่ ๆ เคยอยู่ ไปหาสิ่งใหม่ๆ ดีกว่า วันแรกที่เข้าไปอบรมผมก็ ยังทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน เพราะพี่ที่เคยคุยกัน เขาไม่มาอบรม ส่วนผู้หญิงอีกคน ที่ชื่อน้อง ก็มีคนนั่งด้วยแล้ว ก็เลยนั่งข้างพี่ลำดวน ซึ่งก็ยังไม่รู้จะเริ่มสนทนากับพี่เขายังไงดี วันแรกเลยยังไม่ค่อยรู้จักใครมากซักเท่าไหร่ แต่หลังจากที่จบการอบรม ผมได้รับผลตอบรับว่า กล้ามาก ที่ดูเป็นคนเงียบๆ แต่ว่าพูดเก่ง ดูขี้อาย แต่จริงแล้วกล้ามาก อันนี้เขาบอกกันมา จากที่ได้ไปเที่ยว ไปสำรวจเส้นทางการนำเที่ยว ไปชมวัด ตลาด และสถานที่สำคัญต่างๆ แล้ว ทำให้เราได้รู้จักกันมากขึ้น ผมจะมาเขียนความรู้สึกกับแต่ละคนอีกครั้ง หลังจากที่ได้พูดไปแล้ว ในวันส่งท้าย

  • เริ่มจาก เจ๊นา พี่ใหญ่ที่สุึดในการอบรม เจ๊เป็นผู้ใหญ่ใจดี วางตัวดี ผมดูออกว่าเจ๊ต้องเหมือนแม่เพื่อนผมแน่ๆ บุคลิกการแต่งตัว คล้ายๆ กัน คือแต่งตัวสบายๆ แต่เสื้อผ้าที่ใส่ดูดี ไม่ตลาดๆ จะออกแนวๆคุณนาย ก็ไม่เชิง แต่จะออกไปทางแม่ค้า ที่รู้จักพูดจากับคนมากกว่า เจ๊ไปเที่ยวกลับมาก็ยังมีขนมมาฝากพวกเราด้วย และตอนไปเที่ยวตลาดสามชุกเจ๊ ช๊อปเพลินเลยครับ อย่างที่บีบอกละครับ เจ๊นาเหมือนแม่ในหมู่ของพวกเรา เวลาทำอะไรก็ต้องให้เกียรติตามความอาวุโส ผมเองยังอยากเห็นหน้าลูกสาวเจ๊นาเลยนะ เพราะดูแล้วน่าจะสวยเหมือนแม่แน่ๆเลย อิอิ
  • ต่อมาพี่ลำดวน ถ้าพูดถึงเรื่องพันธมิตร นปช กับเจ๊แกไม่ได้เลย เดี๋ยวของขึ้น เจ๊จะหาเรื่องคุยกันได้ยาว จนต้องหาเรื่องอื่นมาเปลี่ยนเลย พี่ลำดวนก็เป็นผู้ใหญ่ที่วางตัวดี และมีมุมมองความคิดที่เป็นด้านบวกมากๆ ในเกมส์ที่เน้นในด้านจิตวิทยา พี่ลำดวนจะพูดในด้านที่บวกเสมอๆ ทำให้ดูเป็นแม่ชีเลยก็ว่าได้ เวลาที่พี่ลำดวนพูดจบพวกเราก็พากันสาธุกันยกใหญ่ เอ้า สาธุ
  • พี่นก สาวจากอุบลราชธานี พี่นกดูเป็นสาวที่ขยันมากครับ ผมเข้าใจเพราะแม่ผมเป็นคนขอนแก่น น่าจะเหมือนๆ กัน พี่นกก็เป็นพี่สาวที่ฮาๆ ขำๆ ซึ่งเจ๊แกก็จะจับกลุ่มกับพี่นา พี่ลำดวนคุยเรื่องผู้ใหญ่ๆ หุหุ พี่นกเป็นสาวลุยๆ ไปไหนไปกัน ที่ว่าพี่เขาขยันก็ตอนที่เดินไปกินข้าว พี่นกเหลือบไปเห็นป้ายรับสมัครงาน พี่เขายังขอเวลานอก ไปสอบถามดูเลยครับ
  • พี่เปีย ตอนแรกคิดว่าพี่เปียจะอายุ 27-28 เพราะดูไม่แก่เท่าไหร่ และตัวเล็ก แต่พี่เขาอายุอานาก็ 33 แล้ว พี่เปียเป็นพี่สาวที่เป็นห่วงน้องๆ ทุกคนเลย อย่างตอนที่เชอรี่ปวดท้อง พี่เปียก็ให้ผมขับรถไปซื้อข้าวต้มมาให้ แต่เมื่อมาถึง เชอรี่ก็กินไม่ได้ ทำให้พี่เปียต้องรับผิดชอบเองคนเดียวเลยกับข้าวต้มถุงนั้น และตอนที่ไปเสม็ด พี่เปียก็พาหลานไปด้วย ซึ่งน้องทรายท้อเสียและอาเจียนเพราะอาหารเป็นพิษ พี่เปียก็ดูแลอย่างไม่ห่างเลย อยากมีพี่สาวแบบนี้มั่งจัง อิอิ หลานสาวพี่เปียน่ารักอย่างแรง นะครับ ^^
  • พี่อ้อ แม้จะมาช้า แต่ก็ไม่สายเกินไปที่จะกลมกลืนเข้ากับพวกเราได้ ตอนแรกที่เห็นพี่อ้อ นึกแอบดีใจที่ห้องเราจะมีผู้ชายเพิ่มมาอีก 1 คน มีการพนันกับซะด้วย ว่าหนุ่ม หรือ สาว 555+ คนทายว่าหนุ่มก็ต้องพ่ายแพ้ไป เพราะพี่อ้อ ยืินยันชัดเจน กูเป็นผู้หญิง หึหึ เป็นสาวห้าวๆ เฮ้ย เฮ้ ตามประสาช่าง เพราะพี่แกจบมาจากเทคนิค แถมช่างไฟซะด้วย พี่อ้อก็จะไม่ค่อยพูดเท่าไหร่ แต่เวลาเล่นมุขอะไรทีก็ถึงกับอึ้งได้เหมือนกัน
  • น้องน้อง อืม เธอชื่อน้อง เลยต้องเรียกว่า น้องน้อง ซึ่งไอ้รุจมันก็ยังเรียกชื่อผิดตั้งแต่ วันแรกจนวันสุดท้ายเลยว่า น้องน้อย น้องเป็นสาวสุราษฯ บ้านเกิดเธออยู่ที่นั่น แต่มาเรียนที่ ราชมงคลฯ หันตรา น้องดูเป็นสาวเงียบๆ ไม่ค่อยพูด แต่เอาจริงๆ เธอพูดได้น้ำไหลไฟดับเหมือนกัน เป็นคนที่ออก accent ได้ชัดมากๆ
  • ไกด์ สาวร่างอวบอั๋น ที่เต็มไปด้วยอารมขัน ขันแตก! เพราะจะหัวเราะแบบไม่มีเหตุผล หัวเราะไม่หยุด ไม่ว่าจะอึ๊บกี่ที เดี๋ยวก็ต้องหลุดขำออกมาอีก เส้นขำของเธอ มันอยู่ใต้ชั้นผิวหนังลงไปเล็กน้อย ซึ่งมันก็ตื่นมากๆ จนทำให้หยุดหัวเราะไม่ได้ ไกด์เป็นผู้หญิงแรงๆ รักสนุก แต่ไม่ผูกมัด จะว่างั้นก็ได้ ชอบเที่ยวชอบเต้นตามประสาวัยรุ่นทั่วไป นิสัยร่าเริงเป็นกันเอง และไม่ถือตัว จะว่้าไป เพราะไกด์เอง ก็ทำเรื่อง Surprise พวกเราแบบตั้งตัวไม่ติดเหมือนกัน….
  • โบว์ สาวน้อยร่างเล็ก หุ่นดี กับความขาวที่นำหน้ามาแต่ไกล เธอจะนอนตะแคงข้างไม่ได้ เดี๋ยวตาจะไหลมารวมกัน อิอิ ล้อเล่งๆ โบว์ก็น่ารัก พอๆกับไกด์ เพราะเขาเป็นเพื่อนสนิทกัน เรียนมาด้วยกัน อุปนิสัยใจคอก็น่าจะคล้ายๆ กัน แต่โบว์ก็ทำเอาเราอึ้งกิมกี่ไปเมื่อเจ้าหล่อนเมาแป๊ด! อย่างคาดไม่ถึง
  • เชอร์รี่ สาวน้อยร่างใหญ่ ที่โปรยสเน่ห์ไปทั่ว อยากจะบอกว่า สามีหล่อนที่ชื่อเบิร์ด หล่อม๊ากกก 555+ มีลูกกันแล้ว 1 คน แต่เสียใจด้วยที่ลูกคนที่ 2 ต้องจากไปก่อนจะถึงเวลา เมื่อชี แท้งแบบไม่รู้ตัว ทำให้ในการอบรมครั้งนี้ มีหลายรสชาติ เหลือเกิน ทั้งเศร้าเสียใจจากที่เธอแท้งลูก และสุขสันต์วันเกิดให้กับเธอในวันที่ 26 เมษายน บ๊ะ เป็นอะไรที่สมดุลกันจริงๆ เชอรรี่ได้เปรยไว้ว่าชอบชาวผมยาว วะวะวะว้าวว งานเข้าเลยเรา เกือบต้องตัดผมครั้งใหญ่ หุหุ จะว่าไปชีเองก็เป็นคนที่คุยสนุก รู้จักคนเยอะ และมีกิ๊กเยอะไม่เบา อีกหน่อยเป็น ซ้อใหญ่ คุมซอยได้เลยละ
  • เล็ก ก็เล็กสมชื่อ ตัวเล็กแต่…. อืม เป็นสาวที่หน้าตาจิ้มลิ้ม จมูกโด่ง วันแรกที่เห็นนึกว่า สก๊อย ที่ไหนหัวทองมาแต่ไกล แล้วแต่งตัวแนวๆ แล้วด้วย ยิ่งเหมือนมากๆ เล็กก็เป็นเพื่อนสนิทกับเชอรรี่ แต่ยังสงสัยว่า คบกันได้ยังไง เพราะนิสัยก็ต่างกันพอสมควร แต่ดูแล้วว่าต้องมีอะไรที่เหมือนๆ กัน หรือสมดุลกัน ถึงเป็นเพื่อนกันมาไ้ด้จนถึงทุกวันนี้ พอใกล้จบค่ายเล็กไปตัดผมสั้นมา แถมใส่ชุด นศ. มาอีก กรี๊ดๆ น่ารักมากกกก ยิ่งใส่แว่นด้วยแล้ว สเปกเลย วิ๊ดวิ้ว
  • บี ไอ้นี่ม่อตลอดการอบรมเลยพี่น้องครับ ไม่ว่าลูกเด็กเล็กแดง พี่บีเราม่อได้หมดครับ ไปเปิดดู hi5 มันมาแม่งหน้าตาอย่างละอ่อนครับ พี่น้องครับ ต่างจากตัวเป็นๆ ในปัจจุบันมากมาย บีมันเป็นคนที่คุยกับคนง่าย ม่อคนโน้นที คนนี้ที ว่าไปเรื่อย เป็นคนที่มีหัวคิดในแบบการท่องเที่ยว ที่ใช้ได้เลยละ จนมันเองก็ยังอยากมาเรียนท่องเที่ยวเลย แต่เพราะเรื่องความม่อของมันนี่เองเกือบทำให้เป็นเรื่องเ็ป็นราวแล้วมั้ยละ พี่ท่านถึงกับเมามาว เหมือนผู้ชายอกหัก รักคุด ตุ๊ดเมิน ร้องเพลงประชดชีวิต และเสียดสีคนบางคนอย่างที่ คนฟังก็เดาออก ว่าเป็นใคร ไอ้บีมันเป็นคนอัธยาศัยดี เข้ากับเ็ด็กก็ได้ ผู้ใหญ่ก็ดี ตอนไปทะเลมันยังหลอกเด็กได้มาเป็นฝูงๆ เลย บ๊ะ ไอ้นี่มันม่อตัวจริง เหอๆๆ
  • รุจ ไอ้คนนี้มันคิดยังไงพูดยังงั้นจริงๆ พอดูออกว่าชอบเล็กอยู่ แต่มันไม่กล้าบอก จนโดนเล็กแซวๆ ว่า “มึงชอบกูไงไอ้รุจ” บ๊ะ เล็กนี่สปอร์ต จนวันสุดท้ายที่ปิดคอร์ส มันถึงกับพูดทั้งน้ำตาคลอ ว่ามันไม่ค่อยมีคนจะสนใจ ไม่ค่อยมีสาวที่ไหนอยากเล่นด้วย มีเล็กนี่แหละ ที่เป็นคนแรกที่ป้อนขนมให้มันคนแรก และเล่นกับมันโดยไม่ถือสาอะไรเลย ทำให้เราได้รู้ว่า ไอ้รุจมันซิง จริงๆ อิอิ มันเป็นคนที่รักเพื่อนมาก หมายถึงไอ้บีน่ะ มันแคร์ไอ้บี แต่ไม่รู้ไอ้บีแคร์มันเหมือนที่มันแคร์หรือเปล่า นิสัย 2 คนนี้ต่างกันสุดขั้้วเลยเป็นสิ่งที่ลงตัว เป็นความแตกต่างที่เติมเต็มกันและกัน ทำให้มันเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กๆ จนไอ้รุจตัดสินในมาเรียนที่สาขาท่องเที่ยว ของอาชีวะ เพราะว่ามันรู้ดีว่ามันไม่มีความรู้เรื่องช่าง จนมันรู้สึกชอบอาชีพนำเที่ยว ถึงแม้ว่าตัวเองจะอ่อนภาษาอังกฤษก็ตาม แต่ัยังไงก็ สู้ๆ เว้ย เอาใจช่วย
  • แนส + ศิ สองน้องคู่ขา ที่ต้องคู่กันถึงจะฮา ดูแล้วเป็น DUO ที่เข้ากันได้ดี คนหนึ่งเป็น “เทยผอม” อีกคนหนึ่งเป็น “ห้าวท้วม” วันแรกๆ ดูศิจะเรียบร้อย พอเริ่มสนิทไปเรื่อยๆ ชักเริ่มกวนทีน ขึ้นทุกวันๆ ส่วนแนสซี่ ก็ถือว่าเป็นสาวปกติ ที่เป็นไปตามธรรมชาตินิสัยของเธอ แต่แอบดูแนสเวลามันพูดมันแนะนำอะไรต่างๆ ไว้แล้วละ อิอิ ประมาณว่าครูพักลักจำ คอยสังเกตุทางทาง ลีลา การใช้น้ำเสียง การวางท่าทาง และการใช้จังหวะ ว่าเขาทำยังไง ซึ่งแนสทำได้ดูเป็นมืออาชีพมากๆ สมแล้วที่ อาจารย์เหน่ง จารย์ฟ้าไว้ใจให้เป็น ลัก ยม
  • อ.เหน่ง เป็นสาวมาดแมนผมสั้น ที่ดูดุๆ นิดๆ แต่เวลาท่านสอนก็ ดูท่าทางจริงจัง เวลาเล่นก็คือเล่น ที่จำได้แม่นเลยคืออาจารย์เหน่งจะทานเผ็ดไม่ค่อยได้ ขนาดสั่งส้มตำยัง กำชับเลยว่า พริกต้อง 2 เม็ดเท่านั้น ซึ่งตอนที่ไปโอมสเตย์ อ.เหน่งนั่งหม่ำส้มตกแบบลุกไม่ขึ้นเลยทีเดียว “ก็มันอร่อยนินา” อ.ท่านว่างั้น
  • อ.ฟ้า เจ๊แกแจ้เกิดช้า อิอิ แกบอกว่า พ.ศ. เกิดให้เก็บเป็นความลับ แหม หน้าตาชีไป 30 แล้ว ยังจะมาแอ๊วอายุอะไรตอนนี้ อิอิ ผมเองเริ่มรู้สึกว่าคุ้นๆหน้า เจ๊แกตอนที่อบรมไปได้ซักระยะหนึ่ง เมื่อมานั่งคิดๆ ดูก็เลยถาม ว่ารู้จัก อีบอลมั้ยเพราะว่าเจ๊แกเรียนท่องเที่ยว เจ๊แกบอกว่า รู้จัก มันทำให้ผมยิ่งมั่นใจว่า ใช่คนๆ เดียวกับที่ยืนด่าน้องบนสแตนด์เชียร์ตอนที่แข่งกีฬา ภูมิศาสตร์ภาคกลางเป็นแน่แท้ เลยถามต่อไปว่า อยู่องค์การด้วยใช่ป่าว เจ๊แกก็บอกใช่อีก บ๊ะ ชัวร์ป๊าบ! ใช่แน่ๆ มันเลยทำให้มีเรื่องได้คุยกันอีกนานโข เกี่ยวกับอดีตชาติ หุหุ hi5 เจ๊แกมีแต่รูปถ่ายมาสวยกว่าตัวจริงทั้งนั้นเลย เชื่อเลยว่าความเบรอช่วยให้คนสวนขึ้น ก๊ากๆๆๆๆ เมื่อหลังจบค่ายได้มีทริปไปเสม็ด เจ๊แกก็ว่ายน้ำไม่เป็น เลยโดนแกล้งซะคอผมเป็น ลอยเล็บข่วนเลย -..- พอโดนแซวว่าว่ายท่านกันเชียงแบบนั้นเห็นเกาะแก้วพิศดาร เจ๊แกก็เลิกว่ายเลย สงสัยอาย ก๊ากกๆๆๆ โอ๋ๆๆๆ เข้าล้อเล่นนะคนแก่

สรุป การอบรมครั้งนี้ทำให้ผมได้รู้จักเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ใหม่ๆ ที่ทำให้พวกเราสนิทกันอย่างลงตัว แบบไม่น่าเชื่อ จะว่าไปแล้ว มันก็สนุกมาก แม้เป็นเวลาไม่กี่วัน ผมชอบบรรยากาศแบบนี้มากเลย อยากให้มีอีก และมีต่อๆ ไปเรื่อยๆ มันเหมือนทำให้เรากลับไปเรียนได้อีก อย่างไม่รู้จักจบจักสิ้น ได้เจอเพื่อนใหม่ๆ ประสบการณ์ใหม่ๆ ได้เรียนรู้โลก และเจอะเจอกับผู้คนหลายแบบ ได้ทั้งประสบการณ์การทำงาน การเป็นไกด์ เส้นทางการท่องเที่ยว การทำงานของไกด์ การวางแผน และดูการทำงานของคนที่มีอาชีพไกด์จริงๆ ขอบคุณโครงการดีๆ แบบนี้ที่ทำให้ผม ได้เจอกับสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิตอีกครั้ง