ด้วยความรู้อันน้อยนิดด้านรัฐศาสตร์ จึงไม่ค่อยเข้าใจและมองไม่เห็นถึงความสำคัญ ของรัฐ เพราะเมื่อมีรัฐแล้ว มันก็แทบไม่มีประเทศไหนในโลก ที่จะไม่เป็นแบบในภาพนี้ รัฐบาลแบบประชาธิปไตย มันจะต่างอะไรกับ ระบบเผด็จการ?
ตั้งคำถามกับตัวเองว่า มันจะมีประเทศไหน การปกครองแบบไหนมั้ย ที่จะไม่มีคนโกงกิน ไม่คอรับชั่น และอุทิศตัวเพื่อผลประโยชน์ของคนอื่น โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน? คำตอบคงตอบได้ชัดถ้อยชัดคำได้ว่า ไม่มี หรือ แทบไม่มี เพราะเดิมทีมนุษย์ หรือสัตว์ทั่วๆ ไป มีสันชาตญาณของการเอาตัวรอด การใช้กำลังเพื่อแย่งชิง ผู้ที่แข็งแกร่งกว่าย่อมชนะไป ผู้ที่อ่อนแอก็จะถูกล่า นั่นมันคือความเป็นจริง การที่ผู้อ่อนแอกว่าจะอยู่รอดได้ คือการจับกลุ่ม การต่อสู้ด้วยจำนวนที่มากกว่า ทำให้ผู้ที่มีอำนาจ มีกำลังเหนือกว่าล่าถอยไป
แล้วประชาธิปไตย มันจะต่างอะไรกับ สัตว์ที่อ่อนแอกันเล่า
คนอ่อนแอที่โง่เง่า มาถกเถียงกันด้วยเหตุผลบ้าๆ บอๆ ของตัวเอง เพื่อได้มาซึ่งความชอบธรรม และความพอใจของตัวเอง และพวกพ้อง เฮ้ย นี่มันประชาธิปไตย แบบไหนกัน? มันจะดีหรือ ที่เรายังปกครองแบบเดียวกับสัตว์ที่มันพูดไม่ได้ มันไม่มีคอมพิวเตอร์ ไม่มีไอโฟนใช้ พวกสัตว์มันก็ยังปกครองกันแบบนี้เลย เพียงแต่มันไม่มีการเลือกตั้งเท่านั้นเอง มันยึดตามความแข็งแกร่งของผู้นำ ใช่!! ผู้นำของสัตว์ต้องแข็งแกร่ง เพื่อจะได้ปกป้องฝูงของมันได้ นี่มันเป็นแค่สันชาติญาณของสัตว์นะ มันยังรู้เลย แล้วมนุษย์เราละ เป็นยังไง?
ผู้นำคนไหนที่แข็งแกร่ง กลับถูกมองว่าเป็นเผด็จการ เป็นคอมมิวนิส บ้าอำนาจ ใช้กำลังข่มเหงประชาชน กดขี่ประชาชน แล้วไงอะ ประเทศเขาก็ไม่ได้ล่มสลายไปซะหน่อย ก็ยังมีให้เห็นกันเดือดดาด ว่าประเทศที่ยังเป็นคอมมิวนิสนั้น มันยังอยู่ได้ เป็นเพราะว่าผู้นำเขาแข็งแกร่ง และปกป้องประชาชนของเขา ปกป้องเอกราชของเขา แผ่นดินของเขา
ไม่ใช่โง่เง่าเอาแต่เถียงกันว่า ใครจะทำ ใครจะดีจะเลว ใส่ร้ายป้ายสี กันไปมา นี่หรือมนุษย์ นี่หรือที่เราใช้ความพิเศษของสมองเราได้มากกว่าสัตว์ทั่วๆ ไป เราจะไปต่างอะไรกับฝูงแร้ง ที่รุมกินสัตว์ที่เน่าตายแล้ว จิกกัดแย่งชิงเพื่อให้ได้เนื้อชิ้นใหญ่แสนอร่อย
มนุษย์หรือ…จะทิ้งสันชาติญาณของสัตว์ไปได้ ไม่มีทาง เพราะยังไง สันชาติญาณ มันติดตัวมาแต่กำเนิด เราเป็นสัตว์ยังไง เราก็ยังเป็นสัตว์อยู่วันยังค่ำ “อย่าไปยกตนว่าเราเป็นมนุษย์เลย เรามันแค่สัตว์ตัวเล็กๆ บนโลกใบนี้เท่านั้น” ธรรมชาติเองก็คงสร้างเราให้มีมันสมองที่ใหญ่และเฉลียวฉลาดกว่าสัตว์ทั่วไป เพื่อจะได้ทำลายกันเอง ธรรมชาติจะได้สมดุล กลับไปเป็นเหมือนเดิม แบบที่ไม่มีอะไรให้เหลือ แล้วค่อยๆ ฟูมฟักเป็นวิวัฒนาการใหม่ การเกิดใหม่ อารยธรรมใหม่ ซักวันมันก็จะมาถึงแน่นอน ไม่ช้าก็เร็ว
กลับมาเข้าเรื่องการปกครอง ของสัตว์ที่มันสมองใหญ่ๆ ประชาธิไตยคือการทำให้ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน มันเป็นกฏของการขี้โกง ของผู้ที่อ่อนแอ ผู้ที่ขี้แพ้ และไม่มีทางสู้ หาเหตุผลมาเป็นข้ออ้างเพื่อให้ตัวเองได้เป็นใหญ่ และเชิดหน้าชูตาบนโลกใบนี้ได้ มันเป็นการฝืนสันชาตญาณของสัตว์ เพราะไม่มีสัตว์ตัวไหน ที่จะยอมแพ้ง่ายๆ ยกเว้นจะสู้ไม่ได้เพราะกำลังที่ด้อยกว่า แต่สัตว์อย่างมนุษย์มีสมอง ทำให้ใช้วิธีต่างๆ เพื่อให้ตนเองชนะ และได้เปรียบ เพื่อการปกครอง และการเป็นใหญ่ พวกที่ไม่เคยทิ้งสันชาตญาณของสัตว์ มันก็จะกดขี่ ข่มเหง ผู้ที่อ่อนแอกว่าในทางกฏหมาย ก็คือพวกประชาชน พวกที่ไม่มีอำนาจ ที่พวกมันสร้างกันขึ้นมาเอง ต้องยอมรับฟังในสิ่งที่มันกำหนด มันคิด มันทำ แม้จะบอกว่า นี่เป็นประชาธิปไตยก็ตาม แต่ประชาชนที่อ้าปากพะงาบๆ ก็ไม่อาจหาเหตุผลมาอ้าง เพื่อต่อสู่ได้ เพราะกลไกของรัฐมันซับซ้อน มันมีวิธี มีกระบวนการ
ต่างจากสันชาตญาณของสัตว์ ที่มีเพียงความแข็งแกร่งและกำลังเท่านั้น
หากเราไม่ต้องมีรัฐฯ เพื่อคุมอำนาจการปกครอง เราจะเป็นอย่างไร? อาจจะเกิดสงครามขึ้น ก็เป็นได้ อาจจะมีการแก่งแย่งอำนาจ ฆ่าฟันกันเพื่อชิงความเป็นใหญ่ ……………………………………….. แล้วการปกครองแบบรัฐประชาธิปไตย ไม่มีสิ่งที่กล่าวมาแล้วนี้หรืออย่างไร? มันก็มีทั้งนั้น แต่ต่างกันแค่วิธีการได้มา ยังไงมนุษย์มันก็ทิ้งสันชาตญาณไปไม่ได้ มันจะอยู่กับเราไปจนตาย จนกว่าเราจะสูญพันธุ์
หากมองในด้านที่ดี หากเราไม่มีรัฐ เราเองที่ต้องพึ่งพาตัวเอง ต้องช่วยตัวเองเพื่อความอยู่รอด ต้องมีการบริหารจัดการกับตัวเอง เพื่อให้มีชีวิตอยู่ เพื่ออาหาร เพื่อการดำรงชีวิต ในการเจรจาก็ต้องทำด้วยตัวเอง แต่หากมีผุ้ที่มีอำนาจ เพียงผู้เดียวเป็นผู้ตัดสินใจ “และเขาเป็นคนดี” ที่ไม่ได้เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนเป็นใหญ่ ทุกชีวิตที่อยู่ภายใต้อานัตินี้จะอยู่ดีกันดี สุขสบาย เหมือนเรามีบอสใจดี ที่ให้โบนัสลูกน้องทุกปี มีเงินเดือนให้ มีที่ทำกิน บ้านเมืองปกติสุข คนเลวก็โทษหนัก คนดีก็มีแต่คนยกย่อง ไม่ต้องถกเถียงกันเรื่องบริหารบ้านเมือง ไม่ต้องทะเลาะกันเมื่อความเห็นไม่ตรงกัน ให้ผู้มีอำนาจเขาตัดสินใจ ไม่ต้องออกความคิดเห็นในเรื่องที่ไม่รู้จริง ไม่ต้องเถียงในเรื่องที่ไม่มีประโยชน์ ไม่ต้องแสดงความโง่เง่าให้ใครเขารู้ เพียงแค่อยู่ไปตามสภาพ หากินไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ แค่นี้มันจะมีอะไรอีกละที่ช่วงชีวิตเราต้องการ แค่ไม่ต้องมีรัฐ ก็พอ