ลางบอกเหตุจากหมาของฉัน

มันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเศร้า กับการจากไปของหมา 2 ตัว ในปีเดียวกัน ซึ่งเจออุบัติเหตุรถชนเหมือนกันทั้งสองตัว ตัวแรกตายเมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ส่วนตัวนี้ตายวันนี้เอง ตัวแรกชื่อ “ไข่เจียว” อีกตัวชื่อ “ไข่เค็ม” เป็นหมาพันธ์ลูกครึ่งไทยฝรั่ง (Havanese) เจ้าฮาวาเนสผมได้มาจากญาติที่กรุงเทพ มีเพื่อนบ้านเป็นชาวต่างชาติเขากลับต่างประเทศและหาคนรับเลี้ยงหมา เลยเอามาเลี้ยงไว้ที่่บ้าน ตั้งชื่อมันว่า “นมสด” แล้วมันไปเจอกับหมาไทยตัวไหนไม่รู้ ได้ลูกออกมา 2 ตัว ตัวนึงชื่อ “ไข่ตุ๋น” อีกตัวก็คือเจ้าไข่เจียวนี่แหละ ไข่ตุ๋นนั่นอายุสั้นนัก มันไปเล่นซนใต้รถ พ่อถอยรถออกจากบ้านไม่เห็นก็เลยทับซะเรียบร้อยไป แหมขนฟูเหมือนแม่เลยละตัวนี้ ส่วนไข่เจียว มันก็ได้แม่มาแค่หน้า ส่วนลำตัวนี่หมาไทยชัดๆ ดูไปดูมาก็เหมือนพวกสิงโต มากกว่า มีขนยาวเต็มหน้า แต่ขายาวหางยาว นิสัยมันขี้เล่น ชอบเอาใจ มันจะคอยดูแลตัวอื่นๆ คอยจับเห็บหมัดให้ตัวอื่น เลียขน คอยคุ้มกัน จัดว่าเป็นหมาตัวพ่อเลยก็ว่าได้ มันอยู่มาเกือบๆ 10 ปีแล้วมั้ง ส่วน “ไข่เค็ม” จำไม่ได้ว่าได้มายังไง เพราะตอนนั้นเรียนแล้วไปอยู่หอ

มาว่ากันเรื่องไข่เจียวก่อน ตอนมันเล็กๆ ก็ถ่ายรูปมันไว้นะ ไว้จะหามาลงให้ดู จำไม่ได้แล้วว่าเคยโพสไว้ที่ไหนซักที่นึง มันเป็นหมาฉลาด แต่สอนไม่รู้จักจำ เมื่อก่อนถอดรองเท้าไว้นอกบ้านไม่ได้เลย มันจะกัดข้างซ้าย ทุกคู่ ย่ำว่าทุกคู่ และเหลือรองเท้าข้างขวาไว้ให้เราดูต่างหน้า ตีก็ไม่จำ บางทีผมเอาโต๊ะขว้างเลยก็มี แม่งรองเท้าซื้อมาใหม่ๆ พอเช้ามาไม่ได้ใส่ซะแล้ว มันทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้าข้างนึงเหมือนเดิม จนมันโตเป็นหนุ่มน่ะแหละ ถึงเลิกกัดรองเท้า คงจะหายหมันเขี้ยวแล้วละมั้ง เวลาที่มันหิว มันก็จะมาคอเคลีย มาทำเสียง โฮ่ โฮ่ ให้เราได้ยิน เพื่อบอกว่า ให้ข้าวกูซักที พอผมลงไปต้มข้าวให้มัน ผมก็จะผ่าฝืน บางครั้งก็ใช้ถ่าน มันจะมานอนรอใกล้ๆ อย่างสงบ ไอ้หมาพวกนี้มันรู้งาน พอเราอยู่ตรงเตาน่ะแหละมันถึงจะเลย โฮ่ โฮ่ บางทีเรานั่งนิ่งๆ มันก็งับแขนเรา อยากให้เราเล่นด้วย อยากให้ลูบหัว ทุบหัว พอมันกัดแรงเราก็ตีมัน ไอ้นี่ก็ยิ่งเล่นแรง เหมือนคิดว่าเราเล่นด้วย มันจะตะกายขึ้นมา บอกให้รู้ว่ากูสู้มึงนะ แต่ถ้าเราเฉยๆ มันก็จะอยู่นิ่งๆ แล้วก็เดินจากไปแบบงอนๆ ว่าไม่เล่นกับมัน บางทีมันก็จะเอาหัวมาถูมือ เพื่อบอกให้เราลูบหัวหน่อย บ้างก็เอาตีนเขี่ย แล้วเชื่อว่าหมานี่หูดีจริงๆ มันจะวิ่งไปหน้าบ้านทุกครั้งที่ได้ยินเสียงรถพ่อขับเข้ามา หรือเวลาเราไปไหน มันจะได้ยินเสียงรถตั้งแต่ยังไม่ถึงบ้าน มันจะรีบมาดักรอเพื่อรับเรา แหม รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง มันจะมาวิ่งดักหน้ารถ แล้วกลับตัวเพื่อวิ่งตาม ช่วงที่น้ำท่วม มันก็ยังสร้างวีรกรรมไว้อีก คือป้าผมจะพายเรือไปบ้านพี่ที่รู้จักกัน ซึ่งไกลมาก น่าจะประมาณ 3 กิโลได้ คือพายไปเรื่อยๆ แต่ไอ้นี่มันแสบครับ มันว่ายน้ำตาม ไม่ใช่ตามมาตัวเดียว ตอนนั้นนมสดก็ยังอยู่ด้วย มันมากัน 3 ตัวเลย “ไอ้ดิ๊ก” อีกตัว หมาพันธ์ไทย ได้มาจากไหนจำไม่ได้ ช่วงน้ำท่วมพวกมันจะขนสวยเป็นพิเศษ เพราะลงน้ำทุกวัน ว่ายกันจนขนเป็นเงาเลยครับ แต่พอขึ้นฝั่งมาก็สกปรกเหมือนเดิม “นมสด” จากตัวขาวๆ ก็เป็นหมาเปื้อนฝุ่น ดูน่าสมเพศจริงๆ เฮ้อ รู้สึกดีเวลาได้นึกถึงอดีต ที่มีความทรงจำดีๆ

รวบรัดมาถึงก่อนที่มันตายเลยแล้วกัน มันมีช่วงที่ผมทำงานประจำ ช่วงนั้นผมจะไม่ได้อยู่บ้าน บางครั้งก็กลับดึก เสาร์อาทิตย์ก็ไม่อยู่บ้าน มันคงเหงา และหิว แม่ผมก็ไม่ค่อยอยู่บ้าน เลยไม่มีใครให้อาหาร มีแต่ครูสดศรี อ.ที่สอนผมตอนประถม ท่านจะแวะเข้ามาให้อาหารเกือบทุกวัน อ.ท่านนี้เป็นคนใจดีมาก ท่านจะขับรถมอไซต์เก่าๆ เสียงดังๆ ตะเวรให้อาหารหมาแทบทั้งหมู่บ้านเลยครับ ในบ้านท่านมีหมาเลี้ยงอยู่เป็นร้อยตัว ใช้เงินบำนาญเลี้ยงพวกมันทุกเดือนๆ บางครั้ง อ.ป่วย หรือไม่สบาย ก็ไม่ได้มาให้ ทำให้ไข่เจียวมันออกไปหากินนอกบ้าน ที่ร้านป้าแตน ร้านก๋วยเตี๋ยวที่ผมกินเป็นประจำ ไข่เจียวมันจะวิ่งตามผมไปด้วยเวลาผมขับมอไซต์ หรือ ขี่จักรยานไปกินก๋วยเตี๋ยว จนมันคุ้นเคยกับเจ้าของร้านและคนแถวๆ นั้นเป็นอย่างดี ประมาณว่าตีซี้จนสนิท เขาเอาข้าวเอาน้ำเลี้ยงมันเป็นหมาที่ร้านไปอีกตัว เวลาที่ผมไม่อยู่บ้าน และไม่มีใครให้อาหาร มันก็จะวิ่งไปร้านนั้น และเฝ้าร้านให้เขาเพื่อแลกกับข้าวน้ำ เป็นไงละ หมาผม เจ๋งสัสใช่มะ แม่งผมจะเห็นมันก็ตอนที่ผมขับรถเข้าบ้าน และมันจะวิ่งตามเข้ามาเท่านั้นแหละ พอมันเห็นเราอยู่ในบ้านไม่ออกไปให้มันเห็นหน้า มันก็จะหนีไปเฝ้าร้านเหมือนเดิม จนวันที่มันตายผมเองก็ไมได้เห็นมันตอนตายเลยด้วยซ้ำ เพราะผมไปต่างจังหวัด กลับมาน้องบอกว่าไข่เจียวโดนรถชนตายแล้ว เพื่อนผมที่อยู่ร้านนั้นฝังให้เรียบร้อยแล้ว เฮ้อ….หมดเวรหมดกรรมกันไป

มาถึงไข่เค็ม มันเป็นหมาที่ดวงซวยที่สุดเลยก็ว่าได้ ช่วงนั้นผมเรียนอยู่ เวลากลับบ้านบางทีมันหงุดหงิดรถ หงุดหงิดคน แล้วหมายิ่งมาพันแข้งพันขาผมก็แตะมั่ง ตีมั่ง มันก็จะกลัว ขดตัวทุกครั้งเวลาที่ผมยกมือขึ้น หรือถือไม้ เพราะมันคิดว่าผมจะตีมัน เวลามันอยู่ใกล้ๆ มันจะเป็นหมาที่ร้องได้น่าสงสารมาก พูดแล้วน้ำตาจะไหล มันจะร้องอิ๊งๆ ร้องคราง ซึ่งก็ไม่รู้ว่ามันเห่าไม่เป็นหรือไง เฮ้อ ยิ่งเห็นมันวันนี้ก็อดสงสารไม่ได้ มันทรมานมานาน เพราะมันไปโดนหมาที่ไหนกัดมาไม่รู้เป็นแผลแล้วมันก็เลีย จนแผลไม่หาย จนพักหลังนี้มันไม่ค่อยเข้าบ้าน อาจเป็นเพราะมันโดนกัด แล้วสู้เขาไม่ได้ เพราะว่ามันก็จัดเป็นหมาแก่แล้ว เลยอยู่ที่ถนนหน้าบ้าน ไม่ยอมเข้าบ้าน อาจจะเพราะกลัวโดนกัด ผมต้องไปอุ้มมันมากินข้าว มันก็จะกินไม่มาก แล้วมันก็ออกไปนอนข้างนอก ไม่นอนในบ้าน เวลาที่ผมเดินออกไปซื้อน้ำแข็ง มันก็จะลุกขึ้นมาครางเรียกผม ฮ๊องๆๆ อู้ อื๊อออออ แลวก็กระเพกๆ 3 ขา ตามมา แล้วก็หยุด ถ้าผมไม่หันไปมองมัน บางครั้งมันก็จะไปอยู่ที่ร้านค้ากับไข่เจียว พอผมไปซื้อก๋วยเตี๋ยวมันก็จะครางแบบน่าสงสารมาก เหมือนมันดีใจที่เห็นผม มันอิ๊งๆๆ ป้าเจ้าของร้านเขาก็ถามว่ามันเคยโดนตีหรือโดนหมาอื่นกัดมาหรอ ดูมันหงอๆ เวลาผมเรียกมันก็จะตามกลับบ้าน แต่บางครั้งถ้าผมขับรถไว มันก็จะไม่วิ่งตาม เพราะกลับหมาที่อยู่แถวนั้นกัดมัน

จนสองอาทิตย์ก่อน ผมรู้สึกว่ามันมีอะไรผิดปกติ คือไข่เค็มมันจะครางมากผิดปกติ เหมือนมันต้องการจะบอกอะไรเรา มันครางด้วยความเจ็บปวด และเดินตามเราเพื่อบอกอะไรเรา ขาของมันก็เป็นแผลเยอะขึ้น และบวมด้วย มันจะมานั่งเฝ้าอยู่ที่โรงครัว และนอนอยู่ที่นั่น ผมคิดตอนแรกก็อาจเป็นเพราะช่วงนี้ฝนตกบ่อย มันเลยมาหลบฝน จน 2-3 วันนี้ มันก็ไม่ได้มางุ้งงิ้งอยู่ที่ๆ หน้าประตูบ้านอีก มันก็คงจะออกไปอยู๋ข้างนอกเหมือนเคย ผมก็ยังเห็นมันอยู่บ้าง แต่ไม่ได้ทันสังเกตุอาการมัน จนวันนี้ได้ข่าวว่ามันโดนรถชน ไม่ทราบว่ารถอะไรเพราะผมไม่ได้ถาม คนมาบอกว่ามันโดนรถชน แม่เรียกให้ผมเดินไปดู ผมเห็นมันอยู่ริมถนน อยู่ตรงหัวสะพานพอดี มันไม่ได้ร้องโหยหวนตอนที่เจอผม มันได้แต่ชะเง้อคอมอง ตรงข้างใบหูมันมีเลือดออก ซึ่งน่าจะไหลมาซักพักใหญ่แล้ว เพราะเลือดมันเริ่มเกาะตัวกันเป็นสายแล้ว ไม่ใช่เพิ่งชน ส่วนที่ขาก็ไม่มีแผลอะไร แต่พอผมจะพยายามอุ้มมัน มันก็ร้องด้วยความเจ็บปวด ขาของมันอ้าออก ขาหน้าเกร็งไปหมด ตัวแข็งเกร็ง เหมือนเวลาที่เราปวดแผลมากๆ กล้ามเนื้อเราจะเกร็งไปหมด ผมคาดว่ากระดูก ตั้งแต่ช่วงเอวมันลงไปถึงขาหลังคาหักแน่ๆ เพราะตัวมันบีบงอ และลุกไม่ขึ้น ผมก็อุ้มมันเดินกลับบ้าน มันร้อง อิ๊งๆ เบาๆ จนมาถึงบ้าน ผมดูอาการมันแล้วไม่น่าจะรอด ซึ่งข้างนอกอาจจะไม่มีบาดแผลอะไรมาก แต่ข้างในอาจจะโดนชนอย่างจังเลยละ มันพยายามที่จะลุกอยู่หลายครั้ง แต่ขาหลังของมันทั้งสองข้างไม่สามารถขยับได้อีกต่อไปแล้ว เอวมันก็ไม่ขยับตามเลย เหมือนตอนนี้ครึ่งตัวมันทำอะไรไม่ได้แล้ว ผมเองก็ไม่รู้จะหาวิธีไหนช่วยมันได้ ใจก็อยากให้มันตายเร็วๆ จะได้หมดเวรหมดกรรมกันเสียที เพราะมันทรมานกับแผลมันมานานแล้ว และสภาพมันคือหมาแก่ที่ใกล้หมดลมเต็มที พูดแล้วก็อดสงสารไม่ได้ ผมเลยไปเอายาแก้อักเสบ กับพารามา ใส่ขนมปังยัดให้มันกิน แต่ปากมันก็เคี้ยวไม่ได้ กลืนไม่ได้แล้ว ผมพยายามอ้าปากแต่อ้ายากมาก เพราะกล้ามเนื้อมันเกร็งไปหมด ผมอยากให้มันหายเจ็บปวดไวๆ จะหมดลมก็รีบไปอย่าได้เจ็บปวดไปกว่านี้เลย ในเมื่อมันเคี้ยวไม่ได้ ผมก็หาวิธีอยู่ ประมาณ 10 นาที เดินไปเดินมา ยาที่ยัดกับขนมปังมันก็คายออกมา แม้ว่าผมจะยัดลงคอไปแล้วก็ตาม จนผมคิดว่าจะผสมน้ำให้มันกิน ซึ่งมันเองก็เลียกินน้ำไม่ได้แล้ว ผมจึงเอาสลิงค์ หรือหลอดเข็มฉีดยาน่ะแหละครับ เอายามาบดๆ ผสมกับน้ำ คนให้เข้ากัน แล้วผมก็ดูดยาใส่สลิงค์ แล้วให้แม่จับปากมันอ้าออก ผมดูดยาฉีดเข้าปากมันไป 3 หลอด พอหมดหลอดที่ 3 อาการมันเหมือนคนสำลักน้ำ แล้วมันก็ชักเกร็ง แล้วครางเหมือนใกล้จะหมดลม ขามันเหยียดออก ตาค้าง และกระตุก ดูท่ามันใกล้จะหมดลมหายใจแล้ว ภาพนี้ผมเองก็ไม่อยากดูเพราะสงสารมัน ผมจึงขึ้นห้องมาซักพัก แม่ก็เรียกบอกมันตายแล้ว T^T หมดกรรมกันซักทีนะไข่เค็ม แล้วผมก็ลงไปขุดหลุมฝังมันไว้ใต้ต้นมะพร้าวหลังบ้าน

จบชีวิตหมาสองตัวไปแล้ว ตอนนี้เหลือหมาที่บ้านอีก 5 ตัว ทุกตัวสมบูรณ์หมด ไม่เจ็บไม่ป่วย เป็นตัวเมีย 3 ตัว ตัวผู้ 2 ตัว แต่ละตัวบุคลิกก็ะจะแตกต่างกันออกไป บางตัวก็เรียบร้อยอย่างกุลสตรีไทย บางตัวก็กากเกรียน บางตัวก็หยิ่งไม่สนใจ บางตัวก็แรด ไว้ผมจะมาเขียนถึงหมาใหม่นะครับ กรวดน้ำแผ่ส่วนกุศลให้หมาไปที่ชอบๆ ด้วยแล้วกัน